ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสบิมสเทค ครั้งที่ ๒๓

เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๖ ไทยในฐานะประธานบิมสเทคเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกรอบความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ หรือบิมสเทค (BIMSTEC) ครั้งที่ ๒๓ ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยมีนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานและนายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เข้าร่วมในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสของไทย

ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าจากการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสฯ ครั้งที่ ๒๒ ในแต่ละสาขาความร่วมมือและพิจารณาประเด็นการจัดการและงบประมาณของสำนักเลขาธิการบิมสเทค โดยที่ประชุมได้เห็นชอบต่อร่างสุดท้ายกฎระเบียบสำหรับกลไกการดำเนินงานภายใต้กรอบบิมสเทค (Rules of Procedure for BIMSTEC Mechanisms) ที่จะวางกรอบให้บิมสเทคสามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบต่อร่างสุดท้ายของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล (Agreement on Maritime Transport Cooperation) ซึ่งจะช่วยยกระดับความเชื่อมโยงทางทะเลภายในภูมิภาค

ไทยในฐานะประเทศนำเรื่องความเชื่อมโยงได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของสาขาความเชื่อมโยง (Connectivity) และสืบเนื่องจากการเห็นชอบต่อร่างสุดท้ายของ Agreement on Maritime Transport Cooperation ได้ผลักดันให้รัฐสมาชิกเร่งรัดการจัดทำเอกสาร Standard Operating Procedures ของร่างความตกลง โดยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะทำงานด้านความเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งบิมสเทค ครั้งที่ ๔ ในวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖

นอกจากนี้ ไทยยังได้แจ้งที่ประชุมเกี่ยวกับแผนข้อเสนอของไทยที่จะเสนอให้มีการจัดตั้งสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของบิมสเทค เพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนภายในบิมสเทค โดยคาดหวังให้กลไกดังกล่าวช่วยเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนในภูมิภาค

การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสบิมสเทคเป็นกลไกการดำเนินงานหลัก มีหน้าที่รับผิดชอบการเตรียมการสำหรับการประชุมรัฐมนตรีบิมสเทค ซึ่งรวมถึงการติดตามความคืบหน้ารายสาขา และการเห็นชอบเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อการพิจารณาของที่ประชุมระดับรัฐมนตรี

ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับรัฐมนตรีบิมสเทค ครั้งที่ ๑๙

เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๖ ไทยในฐานะประธานบิมสเทคเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสาหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ หรือ บิมสเทค (BIMSTEC) ครั้งที่ ๑๙ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน และนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมในฐานะผู้แทนไทย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ย้ำว่าบิมสเทคจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อผลักดันให้บิมสเทคเป็นผู้เล่นในภูมิภาคที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันและสามารถมีบทบาทนำในการส่งเสริมให้อ่าวเบงกอลเป็นภูมิภาคที่ปลอดภัย มั่นคง และมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน ก็สามารถมีบทบาทและส่วนร่วมต่อประเด็นระดับโลก เช่น การพัฒนามนุษย์ การพัฒนาสีเขียว ตลอดจนประเด็นความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ ๒๐๓๐ (Bangkok Vision 2030) ซึ่งเป็นเอกสารระดับผู้นำที่ไทยนำเสนอ เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือบิมสเทคสู่การเป็นภูมิภาคที่มั่งคั่ง (Prosperous) ยั่งยืน ฟื้นคืน (Resilient) และเปิดกว้าง (Open) ภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ นอกจากนี้ เอกสารดังกล่าวยังมุ่งส่งเสริมให้บิมสเทคเป็นภูมิภาคแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความยั่งยืนทางเศรษฐกิจโดยเป้าหมายในวิสัยทัศน์สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรอบสหประชาชาติ และโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทยด้วย

ที่ประชุมได้เห็นชอบเอกสารผลลัพธ์ เช่น วิสัยทัศน์กรุงเทพฯ ๒๐๓๐ (Bangkok Vision 2030) กฎระเบียบสำหรับกลไกการดำเนินงานภายใต้กรอบบิมสเทค (Rules of Procedure for BIMSTEC Mechanisms) และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล (Agreement on Maritime Transport Cooperation) โดยเอกสารเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการหารือในการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ ๖

กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดกิจกรรมรัฐศาสตร์วิชาการ “BIMSTEC on Tour x POL – SCI CMU”

เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดกิจกรรมรัฐศาสตร์วิชาการในหัวข้อ “BIMSTEC on Tour x POL – SCI CMU” ที่คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจหรือบิมสเทค (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC) ให้แก่นักเรียนและนักศึกษา มีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วประเทศกว่า ๘๐๐ คน โดยมี นายรชา อารีพรรค ผู้อำนวยการกองส่งเสริมเศรษฐสัมพันธ์และความร่วมมือ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเข้าร่วม และกล่าวเปิดงานร่วมกับรองศาสตราจารย์ ดร. ไพลิน ภู่จีนาพันธุ์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์

โครงการ BIMSTEC on Tour เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับบิมสเทค และบทบาทของไทยในฐานะประธานบิมสเทค โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน นักศึกษาโดยภายในงานมีการแข่งขันตอบปัญหาวิชาการเกี่ยวกับบิมสเทค การแข่งขันโต้วาทีระดับมัธยมศึกษา และการแสดงทางวัฒนธรรมจากชมรมพื้นบ้านล้านนา รวมถึงการจัดนิทรรศการ ๒๕ ปีแห่งการสถาปนา BIMSTEC

กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศมุ่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับบิมสเทคให้แก่สาธารณชน โดยเฉพาะเยาวชน นักเรียน และนักศึกษา เพื่อเป็นรากฐานไปสู่การส่งเสริมโอกาสและผลประโยชน์ของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเป็นประธานบิมสเทคของไทย

ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการถาวรบิมสเทค ครั้งที่ ๖

เมื่อวันที่ ๑ – ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการถาวรบิมสเทค ครั้งที่ ๖ (the 6th Meeting of BIMSTEC Permanent Working Committee) ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ เพื่อหารือกลไกความร่วมมือของบิมสเทค

ที่ประชุมได้ข้อสรุปเอกสารสำคัญ ๔ ฉบับ ได้แก่ (๑) กฎระเบียบสำหรับกลไกการดำเนินงานหลักภายใต้กรอบบิมสเทค (Rules of Procedure for Core BIMSTEC Mechanisms) (๒) กฎระเบียบสำหรับกลไกการดำเนินงานรายสาขาภายใต้กรอบบิมสเทค (Rules of Procedure for BIMSTEC Sectoral Mechanisms) (๓) กฎระเบียบสำหรับความสัมพันธ์ภายนอกของบิมสเทค (Rules of Procedure for BIMSTEC’s External Relations) และ (๔) ร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้ทรงคุณวุฒิว่าด้วยทิศทางในอนาคตบิมสเทค (Draft Terms of Reference for Eminent Persons’ Group on the Future Directions of BIMSTEC) โดยข้อสรุปต่อเอกสารข้างต้นจะช่วยกำหนดแนวทางในการดำเนินงานในอนาคตของบิมสเทคตลอดจนเสริมสร้างมาตรฐานกลไกการดำเนินงานเพื่อให้บิมสเทคมีโครงสร้างองค์กรที่เป็น แบบแผนและมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในกรอบบิมสเทคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐสมาชิกจากโควิด-๑๙

การประชุมคณะกรรมการถาวรบิมสเทคเป็นกลไกการดำเนินงานหลัก มีหน้าที่รับผิดชอบประเด็นการบริหารและการเงินของสำนักเลขาธิการบิมสเทค และจัดเตรียมวาระการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสบิมสเทค นับตั้งแต่ไทยได้รับตำแหน่งประธานบิมสเทคเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๕ ไทยได้จัดการประชุมคณะกรรมการถาวรบิมสเทคแล้วถึง ๒ ครั้ง สามารถจัดทำเอกสารผลลัพธ์ที่สำคัญเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ประชุมจะได้เสนอต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสบิมสเทค ครั้งที่ ๒๓ และที่ประชุมรัฐมนตรีบิมสเทค ครั้งที่ ๑๙ โดยมีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมนี้ การประชุมที่จัดขึ้นโดยไทยได้รับคำชื่นชมจากรัฐสมาชิกและสำนักเลขาธิการบิมสเทคเป็นอย่างมาก ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีและนำไปสู่ความร่วมมือที่ใกล้ชิดมากขึ้น

รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการถาวรบิมสเทคสมัยพิเศษ

เมื่อวันที่ ๒๑ – ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๕ นางสาวรุจิกร แสงจันทร์ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการถาวรสมัยพิเศษ (Special Meeting of the BIMSTEC Permanent Working Committee) ที่กรุงธากา บังกลาเทศ เพื่อหารือแนวทางเสริมสร้างความเข้มแข็งและยกระดับมาตรฐานของบิมสเทคให้เป็นกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคที่อยู่บนพื้นฐานของกฎระเบียบ (rule-based) ร่วมกัน

 

ที่ประชุมได้สรุปเอกสารสำคัญ ๓ ฉบับ ได้แก่ ๑) ร่างกฎระเบียบสำหรับกลไกการดำเนินงานหลักภายใต้
กรอบบิมสเทค (Rules of Procedure for Core BIMSTEC Mechanisms) ๒) ร่างกฎระเบียบสำหรับกลไก
การดำเนินงานรายสาขาความร่วมมือภายใต้กรอบบิมสเทค (Rules of Procedure for Sectoral BIMSTEC Mechanisms) และ ๓) ร่างขอบเขตหน้าที่ของกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิเรื่องทิศทางความร่วมมือในอนาคตของบิมสเทค
(Draft Terms of Reference for Eminent Persons’ Group on the Future Directions of BIMSTEC)
ซึ่งเอกสารทั้ง ๓ ฉบับจะเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการดำเนินงานของบิมสเทคในอนาคตตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งของบิมสเทคในฐานะกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศเดียวที่เชื่อมภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าด้วยกัน ทั้งนี้ ผลการประชุมดังกล่าวจะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสบิมสเทค (Senior Officials’ Meeting) ครั้งที่ ๒๓ ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี ๒๕๖๖ ต่อไป

 

นอกจากนี้ ในห้วงการประชุม รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้ใช้โอกาสนี้ยื่นสัตยาบันสารกฎบัตร
บิมสเทค (Instruments of Ratification of the BIMSTEC Charter) แก่นายเท็นซิน เล็กเพลล์ เลขาธิการบิมสเทคเพื่อให้กฎบัตรสามารถมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยไทยเป็นประเทศที่สองที่ยื่นสัตยาบันสารดังกล่าวหลังอินเดีย

รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเยือนจังหวัดอุบลราชธานี

เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๕ นางสาวรุจิกร แสงจันทร์ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เยือนจังหวัดอุบลราชธานี โดยได้พบหารือกับ ผศ.ดร. ชุตินันท์ ประสิทธิ์ภูริปรีชา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ความตระหนักรู้เกี่ยวกับบิมสเทค ในห้วงวาระปี ๒๕๖๕ – ๒๕๖๖ ซึ่งไทยเป็นประธาน

อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้แสดงความพร้อมและศักยภาพของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศและเป็นเครือข่ายใน การประชาสัมพันธ์การรับรู้เกี่ยวกับบิมสเทค ทั้งในรูปแบบกิจกรรมและวิชาการ เช่น การจัดกิจกรรม BIMSTEC on Tour โครงการสร้างการรับรู้บิมสเทคผ่านเครือข่ายครูสังคมศึกษา การจัดทำองค์ความรู้งานวิจัย การพัฒนาเยาวชนในระดับอุดมศึกษาผ่านค่าย Start-up การแข่งขันโมเดลธุรกิจของกลุ่มประเทศบิมสเทค และประเทศ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (กัมพูชา ลาว และเวียดนาม) ตลอดจนการฝึกอบรมให้แก่ผู้เข้าร่วมจากประเทศสมาชิกบิมสเทคในสาขาต่าง ๆ ที่มหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญ

ในโอกาสนี้ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจฯ ได้มอบสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับการต่างประเทศไทยจากศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ (International Studies Center: ISC) ให้แก่สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษาต่อไป

ในวันเดียวกันนี้ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจฯ ได้พบหารือกับนายมงคล จุลทัศน์ ประธานหอการค้า จังหวัดอุบลราชธานี นายสมชาติ พงคพนาไกร ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง ๒ และนักธุรกิจ โดยได้แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ เส้นทางการขนส่ง ศักยภาพด้านการค้าการลงทุนระหว่างพื้นที่อีสานใต้กับอ่าวเบงกอล และบทบาทของหอการค้าฯ ในการใช้เครื่องมือทางวัฒนธรรมและ Soft Power ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอุบลราชธานี เช่น ความเป็นไปได้ในการดึงดูดอุตสาหกรรมภาพยนตร์จากอินเดียมาถ่ายทำ หรือการส่งเสริมให้ชาวอินเดียที่มีฐานะดีมาจัดงานแต่งงานในจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้ หอการค้าอุบลฯ ถือเป็น ๑ ใน ๕ หอการค้าที่มีความเข้มแข็งที่สุดของประเทศไทย และมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ ๔๐ ระหว่างวันที่ ๒๕ – ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีจัดกิจกรรม BIMSTEC on Tour ที่จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๕ นางสาวรุจิกร แสงจันทร์ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เป็นประธานการจัดกิจกรรม BIMSTEC on Tour ณ โรงเรียนสตรีสิริเกศ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ผศ.ดร. อรนุช ปวงสุข ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และ ดร. ชูชาติ แก้วนอก ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร ให้การต้อนรับ และมีนักเรียน นักศึกษาจากโรงเรียนและสถาบันอุดมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมประมาณ ๕๐๐ คน

โครงการ BIMSTEC on Tour เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับบิมสเทค รวมถึงบทบาทของไทยในฐานะประธานบิมสเทค โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนในต่างจังหวัด

ภายในงาน มีการจัดบรรยายทางวิชาการให้แก่นักเรียนและนักศึกษาจากโรงเรียน และมหาวิทยาลัยเครือข่ายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การแข่งขันตอบปัญหาวิชาการ และการประกวดโครงงานนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับบิมสเทค การจัดแสดงนิทรรศการครบ ๒๕ ปี การสถาปนาบิมสเทค การเผยแพร่ชุดความรู้บิมสเทค และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากนักศึกษาจากประเทศสมาชิกบิมสเทคที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และการแสดงทางวัฒนธรรม “จากอ่าวเบงกอลสู่ลุ่มน้ำโขง”

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๕ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกับคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และกลุ่มศึกษาอินเดียแห่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดเสวนาวิชาการ “๒๕ ปีแห่งการสถาปนา BIMSTEC: ความจริง ความหวัง และโอกาส” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างความรับรู้เกี่ยวกับบิมสเทค ณ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีนักศึกษา คณาจารย์ และผู้สนใจกว่า ๓๐๐ คน เข้าร่วม การเสวนาดังกล่าวเป็นการแลกเปลี่ยนและนำเสนอมุมมองของนักวิชาการหลายแง่มุมภายใต้กรอบความร่วมมือบิมสเทค เช่น ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านวัฒนธรรม ด้านภูมิรัฐศาสตร์ ด้านสาธารณสุข และด้านเทคโนโลยี

กระทรวงการต่างประเทศมุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับบิมสเทคให้แก่สาธารณชน โดยเฉพาะเยาวชน เพื่อเป็นรากฐานไปสู่การส่งเสริมโอกาสและผลประโยชน์ของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเป็นประธานบิมสเทคของไทย

กต. และ ม.อุบลฯ ร่วมจัดเสวนาวิชาการ “25 ปีแห่งการสถาปนา BIMSTEC: ความจริง ความหวัง และโอกาส”

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และกลุ่มศึกษาอินเดียแห่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดเสวนาวิชาการ “25 ปีแห่งการสถาปนา BIMSTEC: ความจริง ความหวัง และโอกาส” ณ ห้องประชุม Pol 301 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีนักศึกษา คณาจารย์ และผู้สนใจกว่า 300 คนเข้าร่วมกิจกรรม

การเสวนาดังกล่าว เปิดพื้นที่ให้นักวิชาการได้สะท้อนมุมมองถึงความจริง ความหวัง และโอกาส ภายใต้ ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) ผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านหลากหลายมุมมอง ได้แก่ มุมมองด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดย ดร.ศิริสุดา แสนอิว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มุมมองด้านวัฒนธรรม โดย รศ.ดร.สิทธิชัย สมานชาติ คณะศิลปประยุกต์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มุมมองด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดย ดร.ธนเชษฐ วิสัยจร คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มุมมองด้านสาธารณสุข โดย ผศ.สิริทรัพย์ สีหะวงษ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มุมมองด้านเทคโนโลยี โดย ดร.ศิริพร จันทนสกุลวงศ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และดำเนินรายการโดย ดร.ดารุณี พุ่มแก้ว คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) เป็นความร่วมมือซี่งประกอบไปด้วยชาติสมาชิก 7 ประเทศรอบอ่าวเบงกอล ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล ศรีลังกา และไทย โดย BIMSTEC นับเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีศักยภาพในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากหากพิจารณาในแง่ของจำนวนประชากรและขนาดของเศรษฐกิจแล้วจะพบว่า ในปัจจุบันประเทศสมาชิกของ BIMSTEC มีประชากรรวมกันกว่า 1.68 พันล้านคน หรือ ประมาณ ร้อยละ 22 ของประชากรโลก โดยประเทศสมาชิกมี GDP รวมกัน 3.697 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี จึงทำให้ภูมิภาคอ่าวเบงกอลมีความสำคัญทั้งในแง่ยุทธศาสตร์ และเศรษฐกิจ และการค้า

โดยในปี 2565 – 2566 ประเทศไทยได้รับมอบตำแหน่งประธาน BIMSTEC และมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิกอย่างใกล้ชิดเพื่อเสริมสร้างให้อ่าวเบงกอลมีความมั่งคั่ง ยั่งยืน ฟื้นคืน และเปิดกว้าง (Prosperous, Resilient, Open BIMSTEC) หรือ “PRO BIMSTEC” และมุ่งใช้โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG economic model) เป็นแนวคิดหลักในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในแต่ละสาขา ด้วยเหตุนี้ การเสวนาวิชาการ “25 ปีแห่งการสถาปนา BIMSTEC: ความจริง ความหวัง และโอกาส” ภายใต้โครงการการสร้างการรับรู้ BIMSTEC ในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีในการสร้างความตระหนักรู้ (awareness) เกี่ยวกับ BIMSTEC โดยเริ่มตั้งแต่การแนะนำเกี่ยวกับ BIMSTEC ไปจนถึงการสร้างความเข้าใจและการทำให้เห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของความร่วมมือดังกล่าวในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปซี่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับประชาชนในภูมิภาคต่อไป

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถรับฟังบันทึกการเสวนาดังกล่าวได้ที่เพจเฟสบุ๊ค คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี https://www.facebook.com/polsciubu/videos/2869841969978995

ข่าว/ภาพ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการถาวรบิมสเทค ครั้งที่ ๕

ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการถาวรบิมสเทค ครั้งที่ ๕ เพื่อหารือประเด็นและกลไกความร่วมมือของบิมสเทค ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๑๕ กันยายน ๒๕๖๕ ณ โรงแรม Siam@Siam Design Hotel ไทยได้เสนอวิสัยทัศน์กรุงเทพ 2030 ซึ่งมุ่งเสริมสร้างบิมสเทคให้มีความมั่งคั่ง ยั่งยืน ฟื้นคืน และเปิดกว้าง (Prosperous, Resilient, Open: PRO BIMSTEC) ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยวิสัยทัศน์ดังกล่าวได้กำหนดทิศทาง ประเด็นความสำคัญ และเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับความร่วมมือของบิมสเทค เพื่อรับมือกับความท้าทาย รวมทั้งเปิดรับโอกาสต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในทศวรรษนี้ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ ค.ศ. ๒๐๓๐ (BIMSTEC Bangkok Vision 2030) เพื่อเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสบิมสเทค (SOM) ครั้งที่ ๒๓ พิจารณา โดยมีแผนจะรับรองวิสัยทัศน์ดังกล่าวในการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ ๖ ต่อไป

ที่ประชุมยังเห็นชอบข้อเสนอของไทยที่เสนอให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญบิมสเทค (BIMSTEC Network of Policy Think Tanks: BNPTT) ร่วมกันหารือแนวทางและให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการพัฒนาของบิมสเทค เพื่อเป็นแนวทางสำหรับประเทศสมาชิกช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ

การประชุมคณะกรรมาธิการถาวรบิมสเทค ครั้งที่ ๕ เป็นการประชุมแบบกายภาพครั้งแรกที่ไทยเป็นเจ้าภาพนับตั้งแต่รับตำแหน่งประธานบิมสเทคเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๕ โดยผลลัพธ์ของการประชุมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกที่ต้องการผลักดันให้บิมสเทคเป็นองค์กรที่มีพลวัตรและเข้มแข็งมากขึ้น

เลขาธิการบิมสเทค เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในโอกาสเยือนไทย

เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๕ นายเท็นซิน เล็กเพลล์ (Mr. Tenzin Lekphell) เลขาธิการความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ หรือบิมสเทค ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในโอกาสเยือนไทยระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๕ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทของไทยในฐานะประธานบิมสเทควาระปี ๒๕๖๕ – ๒๕๖๖

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและอนาคตของบิมสเทค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เน้นย้ำบทบาทของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกบิมสเทค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาความเชื่อมโยงซึ่งไทยเป็นประเทศนำ (Lead Country) ในห้วงที่ไทยเป็นประธานบิมสเทค

ในโอกาสเยือนไทย เลขาธิการบิมสเทค ยังได้เข้าร่วมและกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดนิทรรศการครบรอบ ๒๕ ปีการก่อตั้งบิมสเทค ณไอคอนสยาม โดยกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของบิมสเทคในฐานะกลไกสำคัญของภูมิภาคเอเชียใต้และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการเสริมสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และความสงบสุขของทั้งสองภูมิภาค นอกจากนี้ เลขาธิการบิมสเทคยังได้พบหารือและรับฟังบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมในหัวข้อความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงของไทยกับบิมสเทค